
Cheat Meal เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการลดน้ำหนัก
ซึ่ง Jim White เจ้าของฟิตเนสและโฆษกของ Academy of Nutrition and Dietetics กล่าวว่า
เมื่อคุณรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงอย่างเดียวหรืองดรับประทานอาหารบางชนิด
100 % จะทำให้มีโอกาสได้รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายเสียหาย แต่ทั้งนี้คุณก็ต้องจำกัดแคลอรีในอาหารที่รับประทานประจำวันด้วย
เมื่อคุณจำกัดการรับประทานอาหารอย่างต่อเนื่องจะทำให้ระดับฮอร์โมน
leptin ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มและช่วยเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญเริ่มทำงานผิดพลาด
ทำให้การเผาผลาญไขมันลดลง
แต่จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติเรื่องโรคอ้วนและความผิดปกติของระบบเมตาบอลิกแสดงให้เห็นว่า
การกินอาหารจำนวนมากๆชั่วขณะหนึ่งโดยเน้นอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตจะช่วยเพิ่มระดับของ
leptin ได้ รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญแคลอรีได้ใน
24 ชั่วโมง ซึ่งอาจเป็นเพราะ leptin
มีความไวต่อการเผาผลาญกลูโคส
และคุณก็จะเห็นว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงไม่ได้ช่วยให้ระดับ leptin เพิ่มขึ้นและไม่ได้กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญด้วย
นักกีฬาเรียกกระบวนการนี้ว่า carb-fests refeeding ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานในปริมาณที่เหมาะสมภายหลังจากการออกกำลังกาย
จะเพิ่มระดับไกลโคเจนในกล้ามเนื้อและช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อรวมถึงช่วยลดไขมันในร่างกายด้วย
แต่หากเป้าหมายการลดปริมาณไขมันในร่างกายของคุณไม่เคร่งครัดมากนัก
และไม่ต้องกังวลกับตารางอาหารที่เข้มงวดจนต้องนับแคลอรี คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่
มาดูกันว่าเคล็ดลับในการรับประทานแบบ
Cheat Meal ให้ได้ผลดีนั้นต้องทำอย่างไร
1.
วางแผนที่จะรับประทาน Cheat
meal สัปดาห์ละครั้ง
Pam Peeke ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์อาวุโสด้าน
Elements Behavioral Health และผู้เขียน The Hunger Fix กล่าวว่า
คุณไม่ควรปล่อยให้ตนเองรับประทานอาหารจำนวนมากๆเป็นประจำ
ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถกำจัดแคลอรีส่วนเกินออกไปได้อย่างที่ต้องการ
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง Jim
White บอกว่าควรกำหนดเวลาของ Cheat meal ให้เป็นวันอาทิตย์หรือใกล้ๆวันที่เป็นโอกาสพิเศษต่างๆ
เพราะคนทั่วไปที่กำหนดเวลา Cheat
meal เอาไว้ในวันศุกร์หรือเสาร์
มีโอกาสที่จะปล่อยตัวกินอาหารมากเกินไปจนกว่าจะหมดวันหยุด และกว่าจะเริ่มควบคุมอาหารใหม่อีกครั้งก็คือวันจันทร์
2.
Cheat
meal คือ
1 มื้อไม่ใช่ 1 วัน
ฮอร์โมนเพศชายอย่าง testosterone
ช่วยให้ร่างกายของผู้ชายสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีดังนั้นหนุ่มๆจึงสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารจำนวนมากๆได้มากกว่าผู้หญิง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้ผู้ชายสามารถกินอาหารมากๆได้เป็นประจำ
นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ฮอร์โมน leptin ที่ช่วยให้การทำงานของระบบเผาผลาญของร่างกายมีปริมาณลดลง ดังนั้น
หนุ่มๆจึงควรกำหนดพลังงานของอาหารมื้อเย็นในปริมาณที่ไม่เกิน 500 - 1,000 แคลอรี หากจำเป็นต้องไปเดท เลือกอาหารจำพวกเนื้อสเต็ก,มันฝรั่งอบและของหวานสำหรับดินเนอร์
3.
รู้จักร่างกายของตนเอง
หากร่างกายไม่ได้รับอาหารที่มีไขมันหรือน้ำตาลสูงในระยะเวลาหนึ่ง
จะทำให้คุณเกิดความอยากรับประทานอาหารเหล่านี้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าและหากมีโอกาส
คุณก็จะกินมันเข้าไปในปริมาณมากๆ
จนทำให้เอนไซม์ในกระเพาะอาหารรวมทั้งน้ำดีจะต้องเข้าสู่ภาวะ Overdrive หรือทำงานมากเกินไปจนทำให้คุณเกิดอาการปวดท้อง,ท้องเสีย และท้องอืดได้ง่าย
4.
ตั้งคำถามกับตัวเอง
ทุกคนย่อมมีอาหารที่ชอบมากและเมื่อกินเข้าไปแล้วก็หยุดไม่ได้ ซึ่งอาจจะรวมถึงอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือแม้แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น ตั้งคำถามสำคัญให้กับตัวเอง 2 ข้อคือ หนึ่ง หากกินอาหารชนิดนี้เข้าไปจะควบคุมตัวเองให้หยุดกินได้ยากหรือไม่ และ ตัวคุณเองจะรู้สึกผิดไหมหลังจากกินมันเข้าไปแล้ว หากคำตอบคือ ใช่ อาหารตรงหน้านี้ก็ไม่เหมาะจะเป็น Cheat meal ของคุณ