
ใครๆก็ต้องชอบดื่มน้ำอัดลมโดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นที่ดื่มเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่พอ
แถมยังต้องการจะดื่มมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ จนเข้าสู่วัยทำงานหลายคนก็อาจจะเลือกดื่มน้ำอัดลมแทนอาหารเช้าทั้งที่ร่างกายอดอาหารมาทั้งคืนกว่าแปดชั่วโมงและต้องการน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกาย
คนที่เคยดื่มน้ำอัดลมมากๆแล้วหันมาดูแลตัวเองดีจะพบว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเมื่อเลิกดื่มน้ำอัดลม
ทำไมจึงต้องเลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอท?
น้ำอัดลมไดเอทดูเหมือนว่าจะไม่มีอันตรายแต่ความจริงแล้วมันทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงหลายอย่าง
ไม่เพียงแต่อวัยวะภายในที่จะได้รับผลกระทบ แต่ยังทำให้การทำงานของไตลดลง,ร่างกายมีการสะสมไขมันหน้าท้องเพิ่มมากขึ้นและทำให้ความอยากน้ำตาลเพิ่มขึ้น
น้ำอัดลมไดเอทเพิ่มความเสี่ยงต่อ โรค metabolic เช่น
ความดันโลหิตสูง, คอเลสเตอรอลสูง, น้ำตาลในเลือดสูงซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ,
โรคหลอดเลือดสมองและโรคเบาหวาน
อาจเกิดอาการถอนได้บ้าง
เมื่อตั้งใจจะเลิกดื่มน้ำอัดลม
ไม่ต้องแปลกใจว่าคุณอาจต้องเผชิญกับภาวะแย่ๆก่อนจะเห็นประโยชน์
ร่างกายจะใช้กลไกการถอนเพื่อกำจัดทั้งสารให้ความหวานเทียมและคาเฟอีน
โดยอาจใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือน
ขึ้นอยู่กับว่าคุณกินมานานเท่าไหร่ อาการถอนที่เกิดขึ้นประกอบไปด้วย ความวิตกกังวล, การเปลี่ยนแปลงความอยากอาหาร, ความอ่อนล้าของจิตใจ,
ภาวะซึมเศร้า, อ่อนเพลีย, เมื่อยล้า, ปวดศีรษะ, ปวดข้อและความกระวนกระวายใจ
แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ไปได้คุณก็จะรู้สึกดีขึ้น
อาหารจะมีรสดีขึ้น
คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำอัดลมไดเอทอาจส่งผลต่อรสชาติอาหารอื่น
ๆ
เมื่อคุณเลิกดื่มได้อย่างเด็ดขาดก็ไม่ต้องแปลกใจว่าอาหารที่คุณชื่นชอบเริ่มที่จะมีรสชาติดีขึ้นเล็กน้อย
น้ำอัดลมไดเอททำให้กระดูกอ่อนแอลง
เพิ่มความต้านทานต่อความหวานมากขึ้นและส่งผลเสียหายต่อสุขภาพของสมอง
บางคนอาจมีกลิ่นปากและมีการรับรสชาติได้แย่ลง
น้ำหนักลดลง
หลายคนที่คิดจะลดน้ำหนักมักคิดว่าการเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ปราศจากแคลอรีเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แต่อย่างไรก็ตามส่วนผสมอื่นๆของน้ำอัดลมไดเอทอาจทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มได้ง่ายขึ้น
ผลการศึกษาจำนวนมากได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำอัดลมไดเอททำให้กินอาหารมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากสารให้ความหวานเทียมจะทำให้คุณอยากกินอาหารที่มีน้ำตาลมากขึ้นจึงเป้นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวพุ่งสูงขึ้น
เมื่อดื่มน้ำอัดลมไดเอทที่มีรสหวาน ร่างกายจะเตรียมพร้อมเพื่อรับน้ำตาลแต่เมื่อไม่มีน้ำตาลจริงๆจึงทำให้ร่างกายส่งสัญญาณผ่านทางฮอร์โมนเพื่อหาน้ำตาลมาเติมเต็มจึงทำให้คุณอยากกินน้ำตาลและรสหวานมากขึ้น
ลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2
เรามักจะคิดถึงอาหารที่เป็นน้ำตาลและอาหารขยะที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่
2
และคนทั่วๆไปมักได้รับคำเตือนให้เลิกดื่มน้ำอัดลมเพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลที่ก่อให้เกิดความหายนะต่อระดับน้ำตาลในเลือด
อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่เครื่องดื่มหวานๆเท่านั้นที่ทำให้คุณเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังเช่น
โรคเบาหวาน หลายคนคิดว่าน้ำตาลเป็นปัญหาต่อสุขภาพ แต่สารให้ความหวานเทียมก็ไม่ดีเช่นกัน
การศึกษาใน American Journal of Clinical Nutrition ได้ศึกษาผลของสารให้ความหวานเทียมและเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลจริงๆพบว่าสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้แทบไม่ต่างกัน
บอกลาท้องอืด
หากคุณคิดจะดื่มน้ำอัดลมไดเอทเพื่อลดแคลอรีและดูแลรูปร่างให้เปลี่ยนไปดื่มน้ำเปล่าแทนเพราะน้ำอัดลมไดเอททำให้ท้องอืดและพองป่องซึ่งไม่ได้ทำให้ดูดีเลย
หลายคนบอกว่าหลังจากเลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอทจะสังเกตเห็นว่าท้องอืดน้อยลง ฟันขาวขึ้น
นอกจากนี้ยังรู้สึกอยากอาหารน้อยลงและสามารถจัดการกับความหิวได้ดียิ่งขึ้น
ความอยากอาหารลดลง
หากคุณรู้สึกอยากกินคุกกี้ชิปช็อกโกแลตและน้ำอัดลมทุกๆบ่ายให้รู้ไว้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียว
เพราะสารให้ความหวานเทียมในน้ำอัดลมไดเอททำให้ความอยากน้ำตาลมีมากขึ้น
ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เลิกดื่มได้ก้จะทำให้ความอยากของหวานของคุณลดลง รสชาติที่หวานเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้เกิดการหลั่งอินซูลินซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
และหากไม่ได้กินคาร์โบไฮเดรตก็ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงซึ่งจะทำให้เกิดความหิวและอยากกินน้ำตาลมากขึ้นกว่าปกติ
เปลี่ยนแปลงความรู้สึกอยากอาหาร
เมื่อไหร่ก็ตามที่เลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอทคุณจะรู้สึกว่าความหิวระหว่างวันลดน้อยลง
ไม่เพียงแค่ความอยากทานอาหารหวานลดลงแต่ยังทำให้ความอยากอาหารลดลงอีกด้วย
นั่นก็เพราะน้ำอัดลมไดเอทมีผลโดยตรงต่อความอยากอาหาร
นักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาที่ดื่ม Sprite Zero ทุกวันมีแนวโน้มที่จะเลือกขนมหวานมากกว่าหมากฝรั่งหรือน้ำเปล่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำอัดลมไดเอท
สารให้ความหวานเทียมมีผลต่อความรู้สึกอิ่ม
ร่างกายมีวิวัฒนาการที่จะทำให้ความต้องการแคลอรีเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะน้ำตาล
เมื่อร่างกายเตรียมพร้อมที่จะย่อยสลายน้ำตาลที่คิดว่าได้มาจากน้ำอัดลมไดเอททั้งที่ไม่มีน้ำตาลจริงๆจะทำให้ร่างกายมองหาสิ่งอื่นๆที่จะมาเติมเต็ม
นั่นจึงอธิบายได้ว่าทำไมการดื่มน้ำอัดลมไดเอทจึงทำให้คุณอยากกินขนมปังมากขึ้นกว่าปกติในอีก
1
ชั่วโมงต่อมา
คุณจะรู้สึกดีขึ้น
คุณเห็นผู้คนที่อยู่ในโฆษณาน้ำอัดลมไดเอทไหม
พวกเขาหัวเราะกับเพื่อน ขี่จักรยานด้วยกันและกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงบนชายหาด
พวกเขามีความสุขมากและทั้งหมดนี้เป็นเพราะเครื่องดื่มแสนอร่อยที่อยู่ในมือ
ปัญหาเดียวก็คือการดื่มน้ำอัดลมไดเอทจริงๆจะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง
ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกซึมเศร้าให้เลิกดื่มมันเสีย
การศึกษาใน PLoS
One พบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อาจทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าสูงขึ้น
นักวิจัยยังพบว่าผู้ดื่มกาแฟและชาที่ไม่หวานมีอัตราการซึมเศร้าต่ำลง
ดังนั้นเลือกดื่มกาแฟดำจะดีที่สุด
คุณจะป่วยน้อยลง
เคยจามบ่อยๆจนรู้สึกรำคาญตัวเองไหม?
ไม่ใช่แค่โรงเรียนอนุบาลเท่านั้นที่นำมาซึ่งเชื้อโรค
การดื่มน้ำอัดลมไดเอทยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งเพราะระบบภูมิคุ้มกันของคุณได้รับผลกระทบจากสารให้ความหวานเทียมซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เลิกดื่มจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
นักวิจัยพบว่าสารให้ความหวานเทียมอาจมีผลต่อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่จะส่งผลถึงการควบคุมน้ำตาลในเลือด,
การควบคุมน้ำหนักและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
ลูกน้อยในครรภ์จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น
ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่หลายคนอาจพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดคาเฟอีนออกทั้งหมด
บางคนจึงเลือกที่จะดื่มน้ำอัดลมไดเอทแทนเพื่อช่วยไม่ให้ง่วงหลับคาโต๊ะทำงานในช่วงบ่าย
แม้จะดื่มเป็นครั้งคราวแต่น้ำอัดลมไดเอทก็ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อลูกน้อยในครรภ์อยู่ดี
การศึกษาใน American
Journal of Clinical Nutrition ที่ได้ทำการศึกษาผลของน้ำอัดลมไดเอทในหญิงตั้งครรภ์ในประเทศเดนมาร์ก
พบว่าผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ดื่มน้ำอัดลมไดเอททุกวันมีความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ดื่ม
คุณจะมีพลังงานมากขึ้น
ร่างกายที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังงานมากขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดที่คุณจะรู้สึกได้ทันทีเมื่อเลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอท
ไม่เพียงแต่จะลุกจากเตียงได้ง่ายขึ้นในตอนเช้าแต่ช่วงบ่ายจะไม่ค่อยรู้สึกง่วงนอนเหมือนที่เคยเป็นมาอีกด้วย
การดื่มคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้คุณขาดน้ำและถูกกระตุ้นประสาทมากเกินไปจนทำให้รู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย
เมื่อตัดคาเฟอีนออกจากชีวิตจะทำให้มีพลังงานมากขึ้นเพราะแม้คาเฟอีนจะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าแต่ส่วนผสมอื่นๆจะทำให้พลังงานของคุณลดลง
เมื่อเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือน้ำอัดลมไดเอท
จะทำให้คุณมองหาอาหารสดใหม่และอาหารทางเลือกอื่นๆที่ดีขึ้น
ฟันของคุณจะมีสุขภาพดี
เราทุกคนรู้ว่าเครื่องดื่มหวานเช่นน้ำพันช์ผลไม้หรือน้ำอัดลมไม่ดีสำหรับสุขภาพฟัน
น้ำตาลจะไปเคลือบที่ฟันทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าน้ำอัดลมไดเอทก็ไม่ได้ดีไปกว่าเครื่องดื่มสองอย่างนี้เช่นกัน
นักวิจัยด้านทันตกรรมออสเตรเลียได้ศึกษาถึงผลกระทบของน้ำอัดลมและน้ำอัดลมไดเอทที่มีต่อฟันพบว่าเครื่องดื่มทั้งสองส่งผลเสียต่อสุขภาพของฟันทั้งสิ้น
ดังนั้นควรเลิกดื่มเพื่อสุขภาพและฟันขาวสะอาดแข็งแรง
ลดผลกระทบจากระดับแอลกอฮอล์ในเลือด
เมื่อออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ แต่คุณอยากดูแลสุขภาพจึงเลือกที่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำอัดลมไดเอทแทนที่จะผสมกับมิกซ์เซอร์อย่างอื่น
เชื่อหรือไม่ว่าการทำแบบนี้จะทำให้คุณเมาเร็วและเมามากกว่าเดิมและมากกว่าเพื่อนๆคุณที่ดื่มเบียร์เสียอีก
เพราะการศึกษาในวารสารโรคพิษสุราเรื้อรังทางคลินิกพบว่าการผสมเหล้ากับน้ำอัดลมไดเอททำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้นทั้งในชายและหญิงมากกว่าการใช้เครื่องผสมอื่น
ๆ
จะเลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอทอย่างไรดี
เมื่อคิดจะเลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอทแต่รู้สึกว่ามันยากสำหรับตัวคุณเอง หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้นคือการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้วยการเปลี่ยนยี่ห้อเครื่องดื่มไปเป็นน้ำอัดลมไดเอทแบบที่คุณชอบน้อยที่สุด
และทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างง่ายๆอย่างน้ำ 1 เหยือกใส่มะนาวกับแตงกวาฝานและใบสะระแหน่
นำไปแช่ให้เย็นใช้ดื่มแก้กระหายและทดแทนน้ำอัดลมไดเอท
วิธีเลิกดื่มน้ำอัดลมไดเอท
ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้ลดปริมาณน้ำอัดลมไดเอทที่ดื่มลงโดยเริ่มจากส่วนเล็กๆก่อน
เน้นการดื่มน้ำให้มากขึ้น
เลือกกินอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและโปรตีนที่ช่วยลดความอยากน้ำตาลลงได้
ค่อยๆลดปริมาณน้ำอัดลมไดเอทที่ดื่มในแต่ละวันลง
ตั้งเป้าหมายที่จะดื่มแค่ 230-470 มิลลิลิตรสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น
รับประทานอาหารตามปกติหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารให้ความหวานเทียมเพื่อให้เพดานปากและร่างกายของคุณได้รับการทำความสะอาดและเพิ่มสมุนไพรสด,เครื่องเทศ,ส้มและผลไม้ที่มีรสชาติแท้จริงตามธรรมชาติ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือดื่มให้น้อยลง