
การศึกษาวิจัยใหม่ๆทำให้รู้ว่าน้ำมันบางชนิดอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพและไม่คุ้มเลยที่จะกินมันเข้าไป
เนยเป็นสิ่งที่หลายคนปฏิเสธและพยายามที่จะไม่จะกินมันอีกแต่ความพยายามนี้อาจเป็นสิ่งที่เกินจำเป็น
หากคุณเคยใช้น้ำมันพืชแทนเนยในการทำอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ
อย่างเช่น น้ำมันดอกคำฝอย,น้ำมันถั่วเหลือง,ดอกทานตะวันและน้ำมันข้าวโพด
เพราะรู้ประโยชน์ของน้ำมันเหล่านี้ว่ามีกรด linoleic สูง,กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
omega-6 ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร,เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้เป็นปกติ ซึ่งประโยชน์เหล่านี้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้แต่ กรด linoleic
จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นหรือไม่? บางครั้งคำตอบก็อาจไม่ใช่อย่างที่คิด
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตาได้ทำการทดลองควบคุมระหว่างปี
1968 และปี 1973 เพื่อทดสอบว่าการใช้กรด linoleic ในการปรุงอาหารสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายหรือเสียชีวิตได้หรือไม่
โดยทำการทดลองในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 9,423 คน
นักวิจัยพบว่าชายและหญิงที่หันมาใช้น้ำมันข้าวโพดแทนเนยและไขมันอิ่มตัวอื่น ๆ
ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลลดลง
แต่ไม่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจวายตายจากโรคหัวใจหรือเสียชีวิตโดยรวม
การวิจัยในปัจจุบันของ
North Carolina ยังทำการวิเคราะห์และตรวจสอบผลจากความพยายามลดคอเลสเตอรอลด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบในการทำอาหารจากเนยไปเป็น
กรด linoleic พบว่ากลุ่มที่ใช้น้ำมันข้าวโพดตั้งแต่ปี 1968-1973
เกิดภาวะหัวใจวายมากกว่ากลุ่มทดลองถึง 2 เท่า
นอกจากนี้ผู้หญิงและผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า 15 %
ในระหว่างการทดลองเทียบกับกลุ่มควบคุม
และนักวิจัยก็ได้ค้นพบว่าการเกิดภาวะหัวใจวายและเสียชีวิตมักเกิดขึ้นในกลุ่มทดลองที่ใช้
กรด linoleic ในการปรุงอาหาร
จึงสรุปได้ว่าน้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดลิโนเลอิคไม่ได้เป็นตัวช่วยที่ดีในการปกป้องหัวใจและลดอัตราการเสียชีวิตได้ดีไปกว่าเนยสักเท่าไหร่
ส่วนสรุปที่สำคัญ
นักวิจัยไม่ได้หมายความว่าการใช้น้ำมันข้าวโพดหรือน้ำมันดอกคำฝอยแทนเนยเป้นสิ่งที่เลวร้าย
เนื่องจากพวกเขาใช้ข้อมูลบางส่วนจากข้อมูลผู้ป่วยและแฟ้มข้อมูลการวิจัย ส่วนสรุปที่สำคัญก็คือการเปลี่ยนชนิดของน้ำมันอาจไม่ได้ทำให้สุขภาพดีอย่างที่คิด
เนยบางชนิดที่มาจากสัตว์กินหญ้าถือว่าเป็นเนยที่มีคุณค่าทางด้านอาหารสูง
จากข้อมูลของ Journal of Dairy Science ทำให้เรารู้ว่าคุณสมบัติทางโภชนาการของเนยจะดีขึ้นตามปริมาณหญ้าที่วัวกินเป็นอาหาร
เนยชนิดนี้จะมีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำและไม่อิ่มตัวมากกว่าเนยทั่วไปซึ่งสามารถเก็บไว้ภายในเซลล์กล้ามเนื้อที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นเมื่อออกกำลังกายและยังเป็นแหล่งพลังงานในขณะออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย
ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับไขมันอิ่มตัวจากเนื้อที่ได้จากวัวที่กินหญ้าเป็นอาหาร รวมทั้งอาหารอย่าง มะพร้าวและน้ำมันมะพร้าว,ไข่และเนย และแน่นอนว่าคุณยังต้องระมัดระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลและแคลอรีโดยรวมอยู่ หากคุณกำลังคิดว่าอาหารออร์แกนิคหรือเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยหญ้าเป็นการตลาด ให้รู้ไว้เถอะว่าสารพิษส่วนใหญ่จะถูกเก็บสะสมเอาไว้ในไขมัน ดังนั้นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อยและมีสุขภาพดีจึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคนรักสุขภาพ
Reference
29. Butter might not be as bad as u thought it was
http://www.mensfitness.com/nutrition/what-to-eat/butter-not-bad