
เครื่องออกกำลังกายอาจจะเป็นเครื่องมือที่เราคิดว่าใช้ง่ายและสะดวกที่สุดในการออกกำลังให้ได้หุ่นสวยอย่างที่เราต้องการ
แต่เทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเจ้าของโรงยิมชื่อดัง BJ Gaddour, C.S.C.S. กล่าวว่า
เครื่องออกกำลังกายเหล่านั้นถูกทำให้เข้าใจว่ามันจะช่วยให้รูปร่างของผู้ใช้ดีขึ้น ทว่าในความเป็นจริงแล้ว
เครื่องเหล่านี้ทำให้กล้ามเนื้อเพียงบางส่วนได้ออกกำลังกายซึ่งนั่นหมายความว่าคุณจะเผาผลาญแคลอรีได้น้อยลงและสร้างมวลกล้ามเนื้อได้น้อยกว่าที่ต้องการ
สิ่งสำคัญที่สุดคือเครื่องออกกำลังกายอาจนำไปสู่การบาดเจ็บ แม้ว่าจะมีที่นั่งและตัวปรับค่าในการหาตำแหนั่งที่เหมาะสมที่สุดในการออกกำลังกายแต่การออกกำลังกายด้วยเครื่องก็จะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ต่างจากการออกกำลังกายแบบอิสระที่จะช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ วันนี้เรามีเครื่องออกกำลังกาย 5 ชนิดที่อยากให้คุณหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของกล้ามเนื้อและหุ่นสวยสมส่วนมาฝากกันค่ะ
1.
Lying
Leg Press
ขาเป็นอวัยวะที่มีความแข็งแรง
เพราะจะต้องพาร่างกายเคลื่อนไหวไปมาอยู่ตลอดทั้งวัน ดังนั้นเมื่อเล่นเครื่อง Lying Leg Press ที่ต้องยกขาสูงขึ้นเหนือศีรษะและวางน้ำหนักที่มากกว่าน้ำหนักของร่างกายเอาไว้บนเครื่องเพื่อให้แรงกดลงบนขาเมื่อย่อและเหยียดเข่า
แต่ปัญหาก็คือน้ำหนักทั้งหมดจะกดลงบริเวณหลังส่วนล่างที่อาจทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อม
ยังไม่รวมถึงว่ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ไหล่ หรือหลังส่วนล่างอาจเกิดการบาดเจ็บและแทบไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย
ลองใช้วิธีนี้แทน : Goblet Squats เริ่มจากการถือดัมเบลหรือ Kettlebell เอาไว้ด้านหน้าในระดับอก จากนั้นย่อและเหยียดขาเช่นเดียวกับการทำ Squats ซึ่งการใช้น้ำหนักที่น้อยลงจะทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญมากขึ้น
2. Seated Leg Extension
เครื่องออกกำลังกายชนิดนี้ต้องมีการวางน้ำหนักเอาไว้ที่บริเวณข้อเท้าที่อาจทำให้เกิดแรงบิดต่อข้อเข่าจนทำให้กระดูกอ่อนอักเสบและเกิดอาการปวดเข่าขึ้นได้
นอกจากนี้เครื่อง Seated Leg
Extension ยังทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวในแบบที่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายน้อยมาก
ลองใช้วิธีนี้แทน: Step Ups เป็นวิธีออกกำลังกายที่ให้ผลดีต่อร่างกายมากกว่าการออกกำลังกายด้วยเครื่อง ช่วยฝึกกล้ามเนื้อบริเวณก้น,กล้ามเนื้อขาด้านหลังและก้น อีกทั้งยังช่วยรักษาเข่าไม่ให้บาดเจ็บสึกหรอและทำให้เข่าแข็งแรงมากขึ้นด้วย
3. Seated Chest Press
ขณะที่นั่งเล่นเครื่องออกกำลังกายชนิดนี้
ร่างกายจะได้ประโยชน์น้อยมากและปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นก็คือทำให้กล้ามเนื้อไม่สมดุลหากแขนข้างหนึ่งแข็งแรงน้อยกว่าอีกข้าง
ดังนั้นคนที่มีกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างแข็งแรงพอๆ กันจะได้ประโยชน์มากกว่า
ดังนั้นหากจะมั่นใจว่ากล้ามเนื้ออกทั้งสองข้างได้ออกกำลังกายพอๆ กันจะต้องมีการแยกฝึกแต่ละข้างต่างหาก
ลองใช้วิธีนี้แทน: Push-ups เป็นวิธีการที่ใช้มานานและยังได้ผลดีอยู่ การออกกำลังกายท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้ออกได้ออกแรงเท่าๆ กันทั้งสองข้าง อีกทั้งยังช่วยทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลและเกิดการเผาผลาญพลังงานทั่วร่างกายไม่เพียงแต่เฉพาะส่วนหน้าอกเท่านั้น
4. Hip Abductor
การออกกำลังกายด้วยเครื่องชนิดนี้แม้ว่าคุณจะบีบกล้ามเนื้อขาเข้ามาหากันและดันน้ำหนักเพื่อแยกขาออกในจำนวนที่นับไม่ถ้วนแต่มันกลับส่งผลต่อกล้ามเนื้อเพียงไม่กี่ส่วนอีกทั้งยังทำให้เกิดการตึงที่กระดูกสันหลังส่วนปลายและอาจทำให้ข้อเข่าเคลื่อนหรือหลุดได้
ลองใช้วิธีนี้แทนช้วิธีนี้แทน: Single-Leg Squat เมื่อไม่ได้อยู่ในฟิตเนสและไม่ได้เล่นเครื่องออกกำลังกายที่เน้นส่วนกล้ามเนื้อขา ดังนั้นการออกกำลังกายด้วยท่า Single-Leg Squat จึงช่วยให้ร่างกายมีความสมดุล กล้ามเนื้อบริเวณก้นและกล้ามเนื้อขาด้านหลังมีความแข็งแรง
5. Loaded Standing Calf Raise
การเล่นเครื่องออกกำลังกายชนิดนี้คุณจะต้องตั้งค่าน้ำหนักที่จะกดลงบนไหล่
ดังนั้นจึงหมายความว่าน้ำหนักทั้งหมดจะกดลงบนไหล่แทนที่มันจะส่งลงไปยังกล้ามเนื้อขา
ซึ่งอาจทำให้หลังค่อมหรือปวดหลังได้
ลองใช้วิธีนี้แทน: Bodyweight Standing Calf Raise หากคุณยืนเขย่งเท้าแบบปกติแล้วรู้สึกว่ากล้ามเนื้อน่องไม่ได้ออกแรงเท่าไหร่นัก
ให้ลองยืนบนขาข้างเดียวแล้วทำท่านี้หรือเพิ่มน้ำหนักด้วยดัมเบลซึ่งจะช่วยให้ขาของคุณเล็กลงและกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากขึ้น