
ถ้าการวิ่งและโยคะเป็นส่วนสำคัญในตารางการออกกำลังกายของสาวๆแต่ถึงกระนั้นคุณก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ใดๆจากการออกกำลังกายเหล่านั้น
ลองหันมาใช้วิธีฝึกกล้ามเนื้อที่มีเหตุผลดีๆหลายอย่างว่าทำไมคุณจึงควรทำมัน
สาวๆหลายคนอาจคิดถึงการยกน้ำหนัก
หรืออาจทำได้เพียงยกดัมเบลหรือบาร์เบลขึ้นมา
และทุกครั้งที่ต้องยกลูกเหล็กคุณจะรู้สึกไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยและบางครั้งอาจรู้สึกว่ามันน่ากลัว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสาเหตุของความกลัวเหล่านั้นมาจากความเชื่อประเภทที่ว่า
การยกน้ำหนักจะทำให้สาวๆตัวใหญ่ขึ้น,การยกน้ำหนักมีอันตรายสูงและไม่ดีต่อข้อต่อ
ไปจนถึงความเชื่อที่ว่าเมื่อคุณสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาได้แล้วจะไม่สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของมันได้หรือกล้ามเนื้อทั้งหมดนั้นจะกลายเป็นไขมันเมื่อหยุดออกกำลังกาย
ซึ่งความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งที่ปิดกั้นสาวๆจากการออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ถึงเวลาแล้วที่จะสลัดความกลัวเหล่านั้นออกไป
เพราะความจริงก็คือการยกน้ำหนักเพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวขนาดนั้นแต่มันกลับจะช่วยให้สาวๆมีสุขภาพดีขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น
เมื่อคุณเริ่มตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกาย คุณอาจจะรู้สึกประหลาดใจว่าการออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายเท่านั้นแต่ยังถึงเป้าหมายเร็วกว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียวอีกด้วย แม้ว่าโยคะและการวิ่งบนลู่วิ่งจะมีประโยชน์ในแบบของมันแต่ก็ยังไม่เพียงพอ มาดูเหตุผล 8 ข้อที่ทำให้สาวๆตระหนักว่าควรให้ความสำคัญกับการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมากขึ้น
1. ช่วยลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากคิดว่าการยกน้ำหนักเหมาะสำหรับคนที่อยากโชว์กล้ามแขนสวยๆ
ให้คิดใหม่ได้เลย
แม้หลายคนจะคิดว่าการยกน้ำหนักเป็นเพียงวิธีเดียวในการเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อ แต่เมื่อนำไปเทียบกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอกลับพบว่าการฝึกกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพสูงมากในการเผาผลาญแคลอรี
ประโยชน์ของการฝึกกล้ามเนื้อคือช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ทั้งระหว่างและหลังออกกำลังกาย
เมื่อเสร็จสิ้นโปรแกรมฝึกกล้ามเนื้ออย่างเข้มข้น
ร่างกายของคุณยังมีการใช้ออกซิเจนต่อเนื่องไปจนกระทั่งวันถัดไปซึ่งเรียกว่าการใช้ออกซิเจนที่มากเกินไปหลังการออกกำลังกาย
หรือ EPOC ที่ทำให้ร่างกายคุณต้องใช้พลังงานมากขึ้นและมีอัตราการเผาผลาญเพิ่มขึ้น
2. ยิ่งมีกล้ามเนื้อมากก็ยิ่งเผาผลาญแคลอรีได้มาก
ในขณะที่คุณออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
ร่างกายจะมีการใช้แคลอรีอย่างมีประสิทธิภาพ การหดตัวของกล้ามเนื้อในชีวิตประจำวันอย่างการกระพริบตาไปจนถึงการทำ
Squat อย่างหนักหน่วงช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมาก
การนั่งเฉยๆจะเผาผลาญแคลอรีน้อยกว่าการยืน
การยืนเผาผลาญแคลอรีน้อยกว่าการเดิน
และการเดินเผาผลาญแคลอรีได้น้อยกว่าการฝึกกล้ามเนื้อ
ยิ่งกล้ามเนื้อมีการหดตัวในระหว่างวันมากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น
ดังนั้นหากมีมวลกล้ามเนื้อมากก็จะมีกล้ามเนื้อหดตัวมากขึ้นและเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น
3.รูปร่างที่โค้งเว้า
ขณะที่สาวๆสร้างกล้ามเนื้อรูปร่างของคุณจะเริ่มมีส่วนโค้งเว้าเหมือนนาฬิกาทราย
แม้การออกกำลังกายแบบ Endurance
exercise ที่ฝึกความทนทานจะช่วยลดน้ำหนักได้แต่น้ำหนักเหล่านั้นจะมาพร้อมกันทั้งไขมันและกล้ามเนื้อ
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสูญเสียทั้งไขมันและกล้ามเนื้อจะทำให้ส่วนโค้งเว้าที่สวยงามเหล่านี้หายไปด้วย
แต่การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อจะช่วยรักษาส่วนโค้งเว้าเหล่านี้เอาไว้ได้
4.นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ
การฝึกความแข็งแรงช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ
ทำให้นอนหลับได้เร็วขึ้น นอนหลับลึกขึ้นและไม่ตื่นขึ้นบ่อยๆในช่วงกลางคืน
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร SportMed นานาชาติแสดงให้เห็นว่าการฝึกความต้านทานในตอนเช้าหรือ การออกกำลังกายแบบความเข้มสูงทำให้คุณภาพในการนอนหลับดีขึ้นและยืดระยะเวลาในการนอนหลับในคืนหลังจากออกกำลังกาย
5.เพิ่มพลังงานให้มากขึ้น
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าออกกำลังกายแบบฝึกความต้านทานจะทำให้ร่างกายมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ
สหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่าการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการออกกำลังกายแบบฝึกความต้านทาน
แม้ในช่วงที่ลดการออกกำลังกายดังกล่าวลงอาจส่งผลดีต่อความสมดุลของพลังงานและการออกซิเดชันไขมัน
และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายที่ให้ผลดียิ่งกว่าการดื่มกาแฟเสียอีก
6.ส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ
การยกน้ำหนักช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและได้รับการอนุมัติจากสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาให้เป็นรูปแบบการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Strength and Conditioning กล่าวว่า คนที่ออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักจะทำให้ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจลดลง
เช่น ลดปัญหาเรื่องเส้นรอบเอวใหญ่,ไตรกลีเซอไรด์สูง, ความดันโลหิตสูงและระดับน้ำตาลในเลือดสูง
นอกจากนี้นักวิจัยในบราซิลยังพบว่าแม้อัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่มสูงขึ้นขณะออกกำลังกายเพื่อฝึกกล้ามเนื้อแต่ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจจะอยู่ในระดับต่ำลงในเช้าวันรุ่งขึ้น
7.ส่งเสริมสุขภาพกระดูก
ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อ
และผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกพรุนมากขึ้นเพราะร่างกายไม่หลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนอีกต่อไป
ซึ่งการออกกำลังกายแบบฝึกความต้านทานเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการลดการสูญเสียมวลกระดูกและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย McMaster เปิดเผยว่า
ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ออกกำลังกายแบบฝึกความต้านทานในระยะเวลา 1 ปีช่วยเพิ่มมวลกระดูกสันหลังขึ้นมาได้ถึง 9.5 % ดังนั้นยิ่งสาวๆเริ่มยกน้ำหนักเร็วขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งจะช่วยรักษาสุขภาพกระดูกในระยะยาวได้เร็วขึ้นเท่านั้น
8.ลดความเครียด
โดยปกติแล้วการออกกำลังกายเป็นการลดความเครียดที่ได้ผลดี
นักวิจัยพบว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีแนวโน้มที่จะควบคุมความเครียดได้ดีขึ้นและสามารถจัดการกับสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย
นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่าในผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักจะช่วยเพิ่มความจำและสติปัญญาอีกด้วย
สาวๆ
มายกน้ำหนักกันเถอะ!
ไม่ว่าใครก็ต้องการที่จะรู้สึกแข็งแรง,เฉียบขาดและมั่นใจในทุกอย่างที่ทำ
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์,ยกเฟอร์นิเจอร์หนักๆ,เล่นกับลูกๆ หรือจัดการกับงานหนัก
การออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของคุณในทุกๆด้าน ดังนั้นอย่าลืมใส่มันลงไปในโปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อที่จะได้สัมผัสถึงความรู้สึกแข็งแรงและมั่นใจมากขึ้น