
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกายของคุณ
บางคนชื่นชอบการวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ ในตอน 6 โมงเช้าเพื่อให้หัวใจสูบฉีดเลือดและปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นในแต่ละวัน
แต่บางคนก็บอกตัวเองอย่าฝันที่จะออกกำลังกายให้เหงื่อออกก่อนเที่ยงจึงเลือกที่จะเดินรอบๆละแวกบ้านหลังอาหารค่ำ
ดังนั้น เวลาไหนกันที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย
ความจริงก็คือยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือว่าแคลอรีจะถูกเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาไหนของวัน
แต่ช่วงเวลาที่แตกต่างกันของวันอาจมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของคุณเมื่อออกกำลังกาย
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกช่วงเวลาของวันที่คุณสะดวกในการออกกำลังกายเพื่อให้ทำอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นนิสัย
นาฬิกาชีวิต
นาฬิกาชีวิตของร่างกายเป็นตัวกำหนดว่าคุณเป็นพวกนกฮูกที่ตาสว่างในตอนกลางคืนหรือนกที่ตื่นเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ และคุณไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในการปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิตนี้ นาฬิกาชีวิตถูกควบคุมโดย
รูปแบบการหมุนของโลกตลอด
24 ชั่วโมง จังหวะเหล่านี้มีผลต่อการทำงานของร่างกาย เช่นความดันโลหิต ,อุณหภูมิร่างกาย ,ระดับฮอร์โมนและอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาต่อความพร้อมของร่างกายสำหรับการออกกำลังกาย
การใช้จังหวะนาฬิกาชีวิตในร่างกายเป็นแนวทางในวางแผนตารางออกกำลังกายดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี แต่ก็มีสิ่งสำคัญอื่น ๆที่ต้องคำนึงถึงด้วย เช่นตารางของเวลาครอบครัวและที่ทำงานหรือความพร้อมของเพื่อนที่จะร่วมออกกำลังกายไปกับคุณ
ประโยชน์ของการออกกำลังกายตอนเช้า
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับความสม่ำเสมอในการออกกำลังกาย
ช่วงเช้าอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกาย ซึ่ง Cedric Bryant หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์จาก American Council on Exercise in San Diego กล่าวว่าการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนที่ออกกำลังกายในช่วงเช้ามีแนวโน้มที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น
โดยแนวคิดคือคุณได้ออกกำลังกายก่อนที่จะเผชิญกับแรงกดดันด้านเวลาอื่น ๆ
ที่อาจทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย Bryant
มักออกกำลังกายในเวลาเช้าช่วง 6.00 น. เพราะหากเขาไม่ออกกำลังกายในตอนเช้าก็จะมีสิ่งอื่น
ๆมารบกวนจนทำให้เขาไม่ได้ออกกำลังกาย แม้ว่าจะมีความตั้งใจแค่ไหนก็ตาม
Bryant
แนะนำว่าการออกกำลังกายในตอนเช้าจะเป็นช่วงที่อุณหภูมิของร่างกายลดลง
ดังนั้นคุณจึงต้องใช้เวลาอบอุ่นร่างกายให้มากขึ้นกว่าช่วงเวลาอื่นๆ
หากคุณมีอาการนอนไม่หลับ การกดปุ่มเลื่อนปลุกไม่ใช่การออกกำลังกาย
ดังนั้นจึงน่าจะดีกว่าถ้าคุณลุกขึ้นมาแล้วกดปุ่มเพื่อออกกำลังกายบนลู่วิ่งแทน
Sally A. White คณบดีและศาสตราจารย์วิทยาลัยการศึกษาที่
Lehigh University ใน Bethlehem แนะนำว่านิสัยการนอนที่ดีช่วยให้คุณเอาชนะอาการนอนไม่หลับได้ ซึ่งรวมไปถึงการเตรียมพร้อมก่อนนอนหลับ
โดยร่างกายของคุณต้องการการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการนอนหลับ
อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิของร่างกายต้องอยู่ในภาวะพร้อมที่จะพักผ่อนซึ่งจะนำร่างกายเข้าสู่นิสัยของการนอนหลับ
การออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารดึกเกินไปเป็นสิ่งที่รบกวนการนอน
เพราะมันจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิของร่างกายจนอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสำหรับการนอน
หากตอนเย็นคือช่วงเวลาที่เหมาะกว่า
Sally A. White ได้ทำการศึกษาแรงจูงใจในการออกกำลังกายและลงความเห็นว่าแม้จะมีความตั้งใจดีที่จะตื่นแต่เช้าและออกกำลังกาย
แต่เธอก็มักจะออกกำลังกายหลังเลิกงานเสมอเพราะมันง่ายที่จะทำให้ร่างกายของเธอปรับตัวเพราะรู้ดีว่าในตอนเช้าร่างกายของเธอไม่สามารถทำในสิ่งต่างๆที่เคยทำได้
สำหรับบางคนช่วงพักกลางวันคือเวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีเพื่อนร่วมออกกำลังด้วย
เพียงแค่ต้องเปลี่ยนเวลาไปรับประทานอาหารหลังออกกำลังกายแทนที่จะกินก่อน
อย่าออกกำลังกายทันทีหลังรับประทานอาหาร
เพราะแทนที่เลือดที่จะไปเลี้ยงกล้ามเนื้อของคุณมันกลับจะไปทางเดินอาหารของคุณแทน
ดังนั้นให้เวลาตัวเอง 90 นาทีหลังรับประทานอาหารมื้อใหญ่แล้วค่อยออกกำลังกาย
การหาเวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกายของตัวคุณเอง
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจังหวะนาฬิกาชีวิตเพื่อหาเวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกาย
แต่อาจลองใช้เวลาที่แตกต่างกันในแต่ละวันเพื่อออกกำลังกาย เช่น ตอนเช้าก่อนไปทำงาน
เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นตอนเที่ยงและตอนเย็น ถามตัวเองว่าชอบเวลาไหนมากที่สุด
และเข้ากันได้กับภาระหน้าที่ประจำวัน
ออกกำลังกายในตอนเช้าสักสองสามสัปดาห์จากนั้นลองตอนเที่ยงและตอนเย็น
ถามตัวเองว่าช่วงเวลาไหนที่ชอบและทำให้คุณรู้สึกดีที่สุด
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาเวลาที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายเป็นประจำและมีความสม่ำเสมอมากกว่าการหาเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกาย
การสร้างนิสัยการออกกำลังกาย
เมื่อถึงวันหนึ่งที่คุณจะเข้าถึงภาวะที่การออกกำลังกายทุกวันกลายเป็นสิ่งที่ทำได้อัตโนมัติเหมือนกับการหายใจ
เมื่อนั้นคุณอาจต้องการความหลากหลายของการออกกำลังกายมากขึ้น
Aldana ผู้เขียน The Stop & Go Fast Food Nutrition Guide กล่าวว่า
การรักษาความสดใหม่นี้ทำให้คุณรู้สึกสนุกสนานมากขึ้น
และทำให้อยากออกกำลังกายต่อไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าคุณยังอยู่ในช่วงที่ยังหาเวลาออกกำลังกายยากหรือไม่สม่ำเสมอ
การตั้งเวลาสำหรับออกกำลังกายในเวลาเดียวกันแต่ละวันจะช่วยให้คุณออกกำลังกายจนเป็นนิสัยได้
ไม่ว่าคุณจะเลือกเวลาเช้ากลางวันหรือหลังเลิกงานเพื่อออกกำลังกาย
ทำให้มันเป็นนิสัยที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน
การเริ่มต้นอย่างง่ายๆคือ แทนที่จะรีบตรงดิ่งกลับบ้านหลังเลิกงานให้เปลี่ยนเส้นทางขับรถไปยิมเพื่อออกกำลังกายแทน และเตรียมเสื้อผ้ารวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการออกกำลังกายให้พร้อมอยู่ในรถเสมอ